
วิธีการปลูกแก้วมังกร แบบประหยัด
แก้วมังกรเป็นผลไม้ต่างชาติที่ินำเข้ามาขายในประเทศไทยประมาณ 8-10 ปีมาแล้ว โดยนำเข้ามาจาำกประเทศ เวียดนามบรรจุมาในลังไม้ฉำฉาลังละประมาณ 30-40 กิโลกรัม ขณะนั้นคนไทยยังไม่ค่่อยรู้จักและนิยมรับประทานมากนักเพราะรสชาติยังไม่คุ้นลิ้นคนไทย อีกทั้งประเทศไทยเรายังมีผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย ให้รับประทานอยู่มากมาย
แก้วมังกรนับว่าเป็นผลไม้ที่มีีคุณค่าด้านการรักษาสุขภาพ ถ้ารับประทานเป็นประจำจะช่วยให้มีสุขภาพดีช่วยระบบขับถ่าย บรรเทาอาการของโรคเบาหวาน ลดไขมัน เพราะมีกากใยอาหารมาก รับประทานแล้วรู้สึกอิ่มช่วยลดน้ำหนักได้
ต่อมาเกษตรกรไทยเราได้นำต้นพันธุ์แก้วมังกร มาปลูกในประเทศไทยทำการพัฒนาเรื่องดิน น้ำและการให้ปุ๋ย จนได้แก้วมังกรรสชาติดีกว่าที่นำเข้าจากประเทศเวียดนาม ประกอบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกได้รณรงค์เรื่องสุขภาพทำให้คนไทยและชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงประโยชน์ทางโภชนาการของแก้วมังกรมากขึ้น ทำให้ผลไม้นี้เป็นที่นิยมมากขึ้นเืรื่อย ๆ
พอมีคนรับประทานมากขึ้น และกลายเป็นของฝากสำหรับผู้ที่เคารพนับถือ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนก็นิยมซื้อไปไหว้เจ้า และงานประเพณีต่าง ๆ เพราะผลของแก้วมังกรมีสีแดงสดรูปทรงสวยงาม รวมทั้งชื่อก็เป็นมงคลอีกด้วยทำให้ความต้องการผลผลิตเพิ่มมากขึ้น
จะปลูกระยะห่าง 50 เซ็นติเมตร ต่อ 1 ต้น โดยปักไม้รวกมัดติดกับต้น ปลายไม้รวกผูกติดกับลวดด้านบน ให้ระยะปลูก ระหว่างแถวห่างกันประมาณ 2-3 เมตร ในเนื้อที่ 1 ไร่จะปลูกได้ประมาณ 1500 ต้น ความสูงของค้างประมาณ 150 เซนติเมตร ก่อนยอดจะุถึงค้างถ้าต้นแก้วมังกรแตกแขนง ควรจะเด็ดทิ้งเหลือไว้เพียง 1 ยอด จะได้โตเร็วจนปลายยอด ต้นแก้วมังกรสูงถึงค้างจะเด็ดยอดทิ้งเพื่อให้แตกกิ่งข้าง
ในปีแรกจะไว้กิ่งเพียง 3-4 กิ่ง กิ่งเริ่มยาวจะห้อยลง พอห้อยลงประมาณ 60-70 เซนติเมตร ก็จะเด็ดยอดอีกครั้งเีพื่อให้อั้นตาดอกก่อนเด็ดยอดประมาณ 1 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 เพื่อให้สะสมอาหารช่วงออกดอก ติดผลควรเลือกลูกที่สมบูรณ์ไว้กิ่งละ 2-3 ลูกใน 1 ต้น มี 4 กิ่ง เฉลี่ย 2-3 ผลต่อ 1 กิโลกรัมต่อรุ่นต่อต้นจะได้ 3-5 กิโลกรัม ใน 1 ปีออก 5 รุ่น เฉลี่ยต่อปีต่อต้นได้ประมาณ15 กิโลกรัม ราคาิกิโลกรัมละ 25-35 บาท ถ้าดูแลดีได้ผลผลิตดีเพียง 1 ปี ก็คืนทุนการให้ปุ๋่ยนั้น ปลูกไปประมาณ 20 วันก็เริ่มให้ปุ๋ยได้ใช้สูตร 25-7-7 ต้นละ 1 ช้อนโต๊ะ เดือนละ 2 ครั้ง ช่วงหน้าแล้วควรใช้แกลบ ดิน หรือฟาง คลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชุ่มชื่น ไม่ควรกำจัดหญ้าจนเกลี้ยงจะทำให้ดินร้อนเพราะรากของแก้วมังกรจะอยู่ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ถ้ามีหญ้ามากและสูงเกินไปควรใช้เครื่องตัิดเศษหญ้าจะได้คลุมโคนต้นและเมื่อย่อยสลายแล้วจะกลายเป็นปุ๋ยด้วย